Innovation Research Awards 2008

เมื่อ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท HP ได้ประกาศรับสมัครแข่งขันชิงทุนวิจัยภายใต้โครงการ HP Labs Innovation Research Program  โดยหัวข้อวิจัยแบ่งออกเป็นหลายเรื่องด้วยกัน ในแต่ละภูมิภาคผู้เข้าแข่งขันต้องส่งงานProposalของงานวิจัยให้ตรงตามหัวข้อวิจัยที่บริษัทHPได้แบ่งไว้ตามโซน [อ้างอิง] และในวันที่ 14 สิงหาที่ผ่านมา HPก็ได้ประกาศผลและมอบรางวัล(นั่นคือทุนวิจัยปีละ $100,000) ให้กับอาจารย์ 41 ท่านจาก 34 สถาบัน (คัดเลือกจากผลงานกว่า 400 ชิ้นจาก 200 สถาบัน ) ส่วนใหญ่ก็เป็นมหาวิทยาลัยทางฝั่งสหรัฐอเมริกา สำหรับทางฝั่งเอเชียมีมหาลัยใน 6 ประเทศคือ จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ สำหรับมหาวิทยาลัยผมเองคือ Nangyang Technological University ที่สิงคโปร์ก็ติดอันดับในนั้นด้วย และอาจารย์ที่ได้รับรางวัลก็คือ Dr.Anwitaman Datta ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เพิ่งสอนผมในเทอมที่แล้วนี่เอง และก็เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาด้าน Peer-to-Peer และทำให้ผมได้เข้าใจกลยุทธ์ในการทำ Redundancy หลายๆแบบที่ผมเคยเขียนไว้ในหัวข้อ “Redundancy: มารู้จักวิธีการโคลนนิ่งกันเถอะ

ท่านสามารถเข้าไปดูผลประกาศและชื่อหัวข้อที่ได้รับรางวัลได้ที่ http://www.hpl.hp.com/open_innovation/irp/2008_results.html

 

GRIDtodayเปลี่ยนไปเป็นOn-Demand Enterpriseแล้วครับ

โลโก้ ON-DEMAND ENTERPRISE หรือชื่อเดิมคือ GRIDtoday

ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2551 เป็นต้นไป เว็บไซต์ GRIDtoday (หรือ gridtoday.com) ถูกเปลี่ยนไปเป็น On-Demand Enterprise (on-demandenterprise.com)แล้วนะครับ สำหรับคนที่อยู่ในวงการกริดคงได้เข้าไปอ่านข่าวสารจากGRIDtodayอยู่บ่อยครั้ง แต่เนื่องจากวัตถุประสงค์ของทีมงานเว็บGRIDtodayต้องการนำเสนอสาระที่กว้างไปกว่าGrid Computing ไม่ว่าจะเป็น High Performance Computing, Utility Computing, Virtualization, SaaS, SOA, Cloud Computing ที่กำลังมาแรงแซงโค้ง, และหัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน และเพื่อต้องการเสนอข่าวที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นตลาดธุรกิจมากขึ้น และเพื่อปูเส้นทางให้กับองค์บริษัทได้ก้าวเข้าสู่ยุค ON-DEMAND ตามชื่อของเว็บใหม่ On-Demand Enterprise นั่นเอง

UPDATE: ท้ายที่สุด on-demandenterprise.com ก็หยุดทำการไปเนื่องจากพิษเศรษฐกิจ มีผลตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2008 เป็นต้นมา

IGA: โฆษณาช่องทางใหม่

ตัวอย่างโฆษณาประเภท IGA ของเกม BattleField 2142 (ภาพจากเว็บ Wikipedia)

ผมไปอ่านข่าวจาก Timesonline หัวข้อ PlayStation 3 introduces ‘in-game’ advertising ซึ่งกล่าวถึงเครื่อง PS3 ได้หันมาทำตลาดโฆษณาสดในเกมหรือที่เรียกว่า In-Game Advertising (IGA) ตัวอย่างเกมที่เราจะได้เห็นโฆษณาประเภท IGA ได้แก่ Madden NFL, NBA Live, Need for Speed, และ Burnout เป็นต้น จริงๆแล้วการโฆษณาในเกมผมเคยเห็นมันมีมานานแล้ว แต่โฆษณาแบบ IGA ซึ่งเป็นโฆษณาสดหรือแบบออนไลน์นั้นผมก็เพิ่งจะมาเจอพวกเกมออนไลน์นี่แหละ อย่างเกมพวก Flash และพวก MMORPG ก็จะมีโฆษณาให้เห็นกันเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ตามขอบของเกมหรือเป็นฉากโฆษณาที่แยกออกมาต่างหาก สำหรับภาพประกอบเป็นโปสเตอร์โฆษณาโปรเซสเซอร์ Intel Core2 Extreme ที่ติดบนกำแพงของเกม BattleField 2142  ความน่าสนใจของ IGA ก็คือ กลุ่มผู้สร้างหรือผู้จำหน่ายเกมสามารถหารายได้เสริมจากการให้เช่าพื้นที่โฆษณาในเกม คือ โฆณษานั้นจะแนบเข้าไปที่ฉาก/สิ่งของ/ผู้คน/เสียงของตัวละครในเกมได้เลย เรียกได้ว่าไปๆมาๆขายโฆษณาอาจจะได้กำไรมากกว่าขายเกมก็ได้ โฆษณาแต่ละเรื่องจะถูกอัพเดทแบบออนไลน์ตามกำลังเงินของผู้ที่จะเอาโฆษณามาลง เช่น ใครจ่ายค่าโฆษณามากก็ได้พื้นที่โฆษณาใหญ่มาก ช่วงเวลาหรือความถี่ของการฉายโฆษณาในเกมก็จะยาวนานหรือมีบ่อยตามไปด้วย เป็นต้น ผมคิดเล่นๆว่าถ้าเกมอย่าง The Sims และ Grand Theft Auto  นำ IGA มาลงบนเกมก็คงสร้างสีสันในเกมได้ไม่น้อย อย่างเช่น เราจะเห็นคนใส่เสื้อผ้าที่มีแบรนด์จริงๆในท้องตลาดและตัวละครที่สวมเสื้อแบรนด์อาจถามเราว่า “เป็นไง เสื้อยี่ห้อนายกี้ของฉันเจ๋งเปล่า ซื้อมาจากห้างเซ็งท่านเพียง 399 บาทเท่านั้น” หรือเวลาตัวละครในเกมเดินบนท้องถนนก็เห็นป้ายโฆษณาสินค้าติดตามกำแพง และเห็นรถเมล์(ในเกม)ติดโฆษณาบัตรเติมเงินโทรศัพท์วิ่งผ่าน หรืออาจจะมีตัวละครเดินมาโฆษณาสินค้าพร้อมโปรโมชันตรงๆว่า “นี่นาย…เบอร์เกอร์ไก่ที่ร้าน Burger Kinx น่ะ ลดราคาตั้ง 50% แหนะ” และไม่แน่เมื่อตัวละครของเราในเกมเดินผ่านโรงหนัง อาจจะมีคนมาแจกแฮนด์บิลโฆษณาหนังใหม่ชนโรง และมีระบบจองตั๋วหนังออนไลน์ที่สามารถจ่ายเงินในราคาพิเศษก็ได้ … น่าสนจริงๆ

ขอขอบคุณ Timesonline และ Wikipeia สำหรับแหล่งข้อมูล ณ ที่นี้

แก้เกรดจาก F เป็น A ต้องโทษจำคุก 38 ปี

ภาพประก��บจาก Wikipedia

ภาพประกอบโลโก้ .hack จาก Wikipedia

ข่าววันที่ 19 มิถุนายนของ Timesonline รายงานว่า นักเรียนวัย 18 ปีจาก Orange County โดนจับและถูกพิพากษาจำคุก 38 ปี ด้วยข้อหากว่า 60 กระทงที่ล้วนแล้วเกี่ยวกับอาชญากรรมอิเล็คทรอนิกส์ รายละเอียดของข่าวก็ไปอ่านเอาเองแล้วกัน แต่สรุปให้ฟังคร่าวๆคือนักเรียนคนนี้เขาเข้าไปแฮ็กค์ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเพื่อไปแก้เกรดหลายวิชาของตนเองจาก F ให้เป็น A เรื่องนี้เป็นเรื่องน่านำมาขบคิดว่าบทลงโทษจำคุก 38 ปีสำหรับเยาวชนอายุ 18 ปีนี้มันโหดไปหรือเปล่า ลองไปอ่าน comment ที่ตอนนี้มีมากกว่า 300 comments ดูก็ได้นะ กลุ่มหนึ่งก็เห็นด้วยและอีกกลุ่มก็ไม่เห็นด้วย โดยส่วนตัวผมเห็นว่าการทุจริตเป็นเรื่องร้ายแรงและต้องลงโทษ แต่การจำคุก 38 ปีกับคนอายุ 18 ปีนั่นหมายถึงเขาจะออกจากคุกโดยเวลาปกติก็คือตอนเขาอายุ 56 ปี ก็เรียกว่าเกินมาครึ่งชีวิตหรืออาจจะกินไปทั้งชีวิตของเขาแล้ว ผมขอภาวนาให้นักเรียนได้รับการลดหย่อนโทษและหวังว่าเขาจะนำความรู้ที่เขามีไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการทุจริต ผมเชื่อว่า Hacker สามารถทำประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ อาทิเช่น ทำงานให้หน่วยข่าวกรอง หน่วยงานความมั่นคง หรือเมื่อใดก็ตามที่มีการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ ก็ให้เหล่าhackerพวกนี้เข้ามาทดสอบและหาช่วงโหว่ เพื่อการพัฒนาระบบให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นไป เป็นต้น

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก Timesonlinie และจาก ocregister (Orange County’s news source)

หากขาดเธอแล้ว ฉันจะอยู่อย่างไร

ตอนนี้สิงคโปร์ก็เที่ยงแล้วครับ ถึงเวลาพักสมองกันซะที ผมก็เปิดเว็บของนิตยสาร TIME และก็เจอคอลัมน์จัดอันดับเว็บไซต์ “The 10 Essential Websites” โดยเขาได้พูดถึงเว็บที่เราขาดไม่ได้ เขาใช้คำว่า “Sites We Can’t Live Without” ซึ่งมีดังนี้

  1. Wikipedia.org อยากรู้เรื่องอะไร สารานุกรมนี้ตอบได้ (เกือบหมด)
  2. YAHOO! Finance เรื่องเงินๆทองๆ หุ้น ข่าวเศรษฐกิจ ต้องเว็บนี้
  3. Craigslist เว็บ classified รวบรวมข้อมูลเป็นหมวดหมู่ของแต่ละประเทศ แต่ละรัฐ แต่ละเมือง
  4. ESPN คอกีฬาไม่พลาดอยู่แล้ว
  5. Yelp มีใครรีวิวเรื่องที่เราสนใจไว้ว่าอย่างไร ก็แวะมาที่นี่
  6. Facebook ตั้งสังคมออนโลน์ หาเพื่อนเก่า หากลุ่มคนในฟิลด์
  7. Digg วัดความดังของเว็บเพ็จด้วยการขุด
  8. Google ไม่ต้องบรรยายเลย ขาดแทบไม่ได้
  9. TMZ สังคมคน gossip ใครชอบเรื่องอย่างนี้ก็พลาดไม่ได้
  10. Flickr อัพโหลดรูปภาพ เก็บไว้ในอัลบัม แชร์เรื่องราวผ่านรูปภาพให้คนอื่นได้ดูต่อไป

ขอขอบคุณ TIME สำหรับแหล่งข้อมูล ณ ที่นี่ด้วย สำหรับใครอยากอ่านเพิ่มเติมก็ไปอ่านได้ที่ TIME ครับ

iPhone 3G กับคู่แข่งทั้งห้า

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ผมแวะไปอ่านข่าวที่ Timesonline จากนั้นก็ไปเจอคอลัมน์ไอทีที่โดนใจวัยรุ่นนั่นคือ “Test bench: iPhone vs touchscreen rivals” โดย Mark Harris และ  Devid Phelan ในบทความเขาได้เปรียบเทียบโทรศัพท์แบบ touchscreen ที่จัดได้ว่าเป็นคู่แข่งของ iPhone 3G เรามาชมโฉมหน้าเสือร้ายคู่แข่ง iPhone ทั้งหมด 5 ตัวกันหน่อยว่าหน้าตาเป็นไง Continue reading

ตะลึง! Grid รันบน PS3 และ XBOX360

ในที่สุด Grid พร้อมลงตลาดเครื่องคอนโซลอย่าง PlayStation 3 และ XBOX360 แล้ว ทีนี้แหละเราได้มันส์กันสักที หลังจากที่ผมรอ Grid มาวิ่งบน PlayStation 3 นานแสนนาน ดันได้แถมบน XBOX360 ด้วย เพราะคงเป็นอะไรที่น่าเบื่อพอสมควรหาก Grid รันได้แค่บน PC ไม่น่าเชื่อเลยว่าวงการเกมจะให้ความสำคัญกับ Grid ได้ถึงขนาดนี้ โอเคครับ…ภาพประกอบอยู่ข้างในแล้ว

Continue reading

When A Dog Needs to Play

จากข่าวที่ผมเคยได้นำเสนอมาแล้วในหัวข้อ “PS3 Cluster is not a Joke” และผมได้ทิ้งท้ายไปว่าเราคงจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ PlayStation 3 (PS3) Cluster ออกมาขายกัน และก็ไม่ใช่เรื่องหยอกๆเลยเพราะมันมีจริงๆแล้วด้วย

Continue reading

อยากมี iPod ที่จุข้อมูลได้ระดับ TB

วันนี้ตอนพักเที่ยงผมเข้าไปอ่านข่าวเก่าๆของสำนักข่าว BBC จนไปเจอข่าวไอทีที่ลงเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา หัวข้อข่าวคือ “IBM races to make hi-tech memory” ซึ่งผมสรุปใจความในข่าวพอย่อๆแล้วกันนะว่า IBM เขากำลังวิจัยและพัฒนาหน่วยความจำประเภท secondary storage แบบใหม่ที่ชื่อ Racetrack memory โดยจุดมุ่งหมายในการออกแบบเจ้าหน่วยความจำนี้ก็เพื่อต้องการหน่วยความจำที่เร็ว,เก็บข้อมูลได้มาก,และทนทาน โดยใช้ต้นทุนต่ำ และเขาก็บอกว่าหากโครงการนี้สำเร็จและนำออกขายจริงแล้ว เราจะได้เห็นเครื่องเล่น MP3 ที่เก็บเพลงได้กว่า 500,000 เพลง หรือมีความจุที่มากกว่าเครื่องเล่น MP3 ในยุคปัจจุบันถึง 100 เท่า ในปี 2008 ส่วนใหญ่เครื่องเล่น MP3 ก็จะมีความจุอยู่ที่ 2 – 16 GB แล้วปัจจุบันนี้ล่ะ เป็นอย่างไรบ้างครับ โปรดเข้ามาอ่าน…

Continue reading

Surface Computing (และคุณจะไม่อยากใช้ Keyboard?)

ช่วงนี้ผมคงไม่ได้มาโพสต์อะไรบ่อยนักครับ ก็เลยขอขั้นรายการโดยเสนอข่าวไอทีแล้วกันครับ จริงๆก็ไม่ใช่ข่าวใหม่อะไรครับ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ดูก็จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ครั้งนี้ ผมขอเสนอ “Surface Computing” ซึ่งเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้แนวใหม่ เมื่อผมเห็นคลิปวิดีโอนี้ครั้งแรกก็รู้สึกเลยว่ามันก็เหมือน iPhone หรือ iPod Touch นี่เอง แต่อาจจะอลังการกว่าตรงที่จอมันใหญ่กว่า และก็ติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆได้โดยการวางอุปกรณ์บนหน้าจอ ซึ่งเขาเรียกหน้าจอนี้ว่า Surface หรือพื้นผิว จึงเป็นที่มาของเทคโนโลยีที่ชื่อ Surface Computing นั่นเอง บริษัทเจ้าของโครงการของเทคโน Surface Computing ก็คือ Microsoft ผมคาดว่า เขาเตรียมเทคโนนี้ไว้สำหรับอุปกรณ์พวกจอ Multi-touch หรือคอมพิวเตอร์พกพาประเภท PDA และ Tablet PC และเราคงจะได้เห็น Windows และ Software อื่นๆที่สนับสนุนเทคโนตัวนี้ในไม่ช้าครับ ผมเชื่อว่า Microsoft ทำได้ครับ (เชื่อในกำลังทรัพย์ว่าทำได้ไม่ยาก) แต่มันจะแทน Keyboard ได้หรือเปล่า ก็คงไม่ได้หมดทุกสถานการณ์หรอกครับ อย่างถ้าผมต้องนั่งเขียนโปรแกรมบน Touchscreen ผมว่าคงไม่คุ้นมือแน่ๆ แต่ถ้าเป็นโปรแกรมบางประเภท โดยเฉพาะพวก Multimedia อันนี้น่าสนมากๆครับ เห็นว่าเขาเริ่มนำเทคโนนี้ออกขายแล้วนะครับ และใช้จริงในกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มแล้วด้วย ไปดูคลิปเอาเองแล้วกันครับ ว่ามันทำอะไรได้บ้าง…สำหรับไอเดียผมตอนนี้คือเอาไปทำกระดานดำ (White board หรือกระดานขาวกันแน่) สำหรับสอนหนังสือในห้องเรียนครับ คงทำให้ผู้เรียนไม่ง่วงนอน (คาดว่านะ…)

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.microsoft.com/surface/

PS3 Cluster is not a Joke!

PS3 Rack from PlayStation3 GavityGrid

ตอนพักเที่ยง ผมเข้าไปแวะ blog ของ ScawLey ซึ่งเป็น blog ที่ผมชอบมาก blog หนึ่ง เนื่องจากมีเนื้อหาที่หลากหลายและมีประโยชน์ และแล้วผมก็ได้เจอ post หนึ่งเรื่อง “PS3 – 10 real-life applications” มี 2 ภาค คือ part1 กับ part2 โดยเขาได้รวบรวม application ที่เครื่องเล่นเกมส์คอนโซลอย่าง PlayStation3 (เรียกสั้นๆว่า PS3) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานจริง แต่มีหัวข้อหนึ่งคือโครงการ PlayStation3 GravityGrid ที่ผมสนใจมากและก็เคยติดตามข่าวนี้มาสักระยะ  จนวันนี้ก็พบว่ามันไปไกลจนออกข่าวกันโด่งดังไปแล้ว (ตกข่าวอีกแล้วผม)

Continue reading